คนราไวย์มั่นคงในชีวิต
เศรษฐกิจดีบนวิถีวัฒนธรรม สิ่งแวดล้อมสมบูรณ์
ภายใต้การจัดการตนเองของคนในตำบล
                     ตำบลราไวย์เป็นตำบลหนึ่งที่มีแหล่งท่องเที่ยวที่สวยงามและมีความสำคัญของจังหวัดภูเก็ต
เพราะเมื่อเราคิดถึงจุดชมพระอาทิตย์ตกที่สวยที่สุด
คนส่วนใหญ่จะคิดถึงจุดชมวิวแหลมพรมเทพซึ่งตั้งอยู่ที่ตำบลราไวย์ อำเภอเมือง
จังหวัดภูเก็ต สถานที่ที่คนหลายคนทั่วโลกใฝ่ฝันจะต้องมายลแสงสุดท้ายของพระอาทิตย์ยามอัสดงที่สวยงามติดอันดับโลกแห่งนี้สักครั้งในชีวิต
นอกจากนี้ตำบลราไวย์ยังมีชายหาดที่สวยงามคือหาดในหาน อ่าวยะห์นุ้ย อ่าวเสน และหาดทรายขาวทอดยาวแหล่งอาหารทะเลสดๆชื่อเสียงเลื่องลือในชื่อชายหาดราไวย์
ที่ใช้เป็นท่าเทียบเรือขนาดเล็กสำหรับเดินทางไปเกาะต่าง ๆ ในตำบล เช่น เกาะเฮ
เกาะโหลน เกาะราชา
ซึ่งมีจุดดำน้ำที่สวยงามขึ้นชื่อว่าเป็นสวรรค์ของนักดำน้ำเลยที่เดียว
 ท่ามกลางความเจริญและการเข้ามาของระบบทุนขนาดใหญ่ที่เกิดความเปลี่ยนแปลงมากมายจากชายหาดซึ่งเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจของชาวภูเก็ตและนักท่องเที่ยวในอดีตสู่แหล่งท่องเที่ยวเชิงอุตสาหกรรม  นอกจากทัศนียภาพที่สวยงามแล้วตำบลราไวย์ยังเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยที่มีความหลากหลายทางวัฒนธรรมและชาติพันธุ์
อันมีประวัติอันยาวนาน
จึงเกิดการรวมกลุ่มทำกิจกรรมและสืบสานวัฒนธรรมประเพณีอันดีงามสืบต่อกันมา และคนในตำบลยังมีระบบการเงินของชุมชนที่เข้มแข็งมีกองทุนหมู่บ้านและกองทุนสวัสดิการที่โปร่งใส
ตรวจสอบได้และสามารถช่วยเหลือคนในชุมชนให้มีสวัสดิการและเงินทุนหมุนเวียนแก้ไขปัญหาความเดือดร้อน
และที่สำคัญ
มีการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวจนเกิดกลุ่มท่องเที่ยวชุมชนซึ่งเน้นการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์โดยคนในชุมชนมีการจัดการตนเองเพื่อพัฒนาการท่องเที่ยวชุมชนอย่างยั่งยืน 
ตราบที่ดวงอาทิตย์ยังขึ้นทางทิศตะวันออกและตกทางทิศตะวันตก แหลมพรหมเทพและตำบลราไวย์ก็ยังคงงดงามรอการมาเยือนของผู้คนเสมอ
ประวัติหมู่บ้านชุมชน
ตำบลราไวย์มีหมู่บ้าน        ทั้งหมด 7
หมู่บ้าน ประกอบด้วยหมู่บ้านต่อไปนี้
หมู่ที่ 1    บ้านในหาน                        
หมู่ที่ 5    บ้านบางคณฑี
หมู่ที่ 2    บ้านราไวย์                         
หมู่ที่ 6    บ้านแหลมพรหมเทพ
หมู่ที่ 3    บ้านเกาะโหลน                    
หมู่ที่ 7    บ้านใสยวน
หมู่ที่ 4    บ้านบางคณฑี
 หมู่ที่  1  บ้านในหาน
ประวัติความเป็นมาของหมู่บ้าน   
ประวัติของหมู่บ้านมาจากสถานที่ตั้งของชุมชนเป็นป่าไส
และเป็นที่ทำรังของผึ้งยวนจึงตั้งชื่อหมู่บ้านว่า “บ้านใสยวน”   ประมาณปี
พ.ศ. 2534  ได้แบ่งแยกหมู่บ้าน  หมู่ที่ 1 ตำบลราไวย์   เป็นหมู่ที่ 7  ชื่อบ้านใสยวน
ชุมชนบ้านใสยวน หมู่ที่ 1 ตำบลราไวย์  หรือที่ชาวบ้านนิยมเรียกว่า บ้านในหาน ทั้งนี้พื้นที่ที่แยกมาเป็นหมู่ที่
1 ตำบลราไวย์ นั้น อยู่ติดกับทะเล  หาดในหาน  ซึ่งเป็นหาดที่สวยงามและสงบเงียบ    ทุกปีจะมีนักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างชาติเดินทางมาท่องเที่ยวพักผ่อนที่หาดแห่งนี้   บุคคลภายนอกหมู่บ้านก็นิยมเรียกชื่อ “บ้านในหาน”
ของดีบ้านในหาน คือ หาดในหาน หนองน้ำในหาน วัดในหาน อ่าวเสน
หมู่ที่ 2 บ้านราไวย์
ประวัติความเป็นมาของหมู่บ้าน    
                         นายจำเริญ  มุขดี  อดีตผู้ใหญ่บ้านหาดราไวย์  เล่าว่า
นายล้อม วงศ์จันทร์   ชาวบ้านจังหวัดนครศรีธรรมราช  ได้อพยพมาตั้งถิ่นฐาน ณ หาดราไวย์  เมื่อประมาณ
ปี พ.ศ. 2430   ได้แต่งงานสร้างบ้านเรือนเป็นหลักฐานมั่นคง   ด้วยความขยันเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่
จึงเป็นที่ยอมรับของเพื่อนบ้านในละแวกหมู่บ้าน  จึงได้รับการแต่งตั้งจากเจ้าเมืองในสมัยนั้น
ให้เป็นนายพัน  ต่อมาได้รับการแต่งตั้งให้เป็นกำนัน  โดยเรียกกันติดปากว่า  กำนันล้อม  ถือได้ว่าเป็นกำนันคนแรกของตำบลราไวย์  ต่อมาญาติพี่น้องก็อพยพมาอยู่ด้วย  ชื่อ นายเอี่ยม  ประจันทบุตร  ซึ่งเป็นหมอแผนโบราณ  หลวงอนุภาษภูเก็ตการ  ซึ่งมาจากเมืองจีน  มีชาวเลพวกพลัดหรือพวกสิงห์จากเกาะบริเวณใกล้เคียงหาดราไวย์   มาขออยู่อาศัยด้วย กำนันล้อมได้แบ่งที่ดินทำกินให้ตามส่วน  ถือได้ว่าเป็นกลุ่มคนที่ได้เข้ามาตั้งรกรากกลุ่มแรกในหมู่บ้านหาดราไวย์
ของดีบ้านราไวย์คือ ชายหาดราไวย์ แหลมกา วัดราไวย์ วัฒนธรรมชาวเล(ชาวไทยใหม่) อาหารทะเลสดๆ สะพานเทียบเรือ
 หมู่ที่ 3
บ้านเกาะโหลน
ประวัติความเป็นมาของหมู่บ้าน
                       ในอดีตเมื่อ 100 กว่าปีก่อน  ได้มีชาวบ้านจาก จังหวัดสตูล ชื่อ โต๊ะนางู้  เดินทางมาตั้งบ้านเรือนอยู่บนเกาะโหลน  ซึ่งมีสภาพเป็นป่า  ต่อมาคนภายนอกเห็นว่ามีคนอยู่ก็พากันอพยพไปอยู่ด้วยหลายครัวเรือน   บ้านเกาะโหลนจัดตั้งเป็นทางการเมื่อปี พ.ศ 2480  มีผู้ใหญ่บ้านคนแรกชื่อนายดล  สองเมือง   มีประชากร  33 ครัวเรือน  และที่เรียกว่าบ้านเกาะโหลน  ผู้นำชุมชนเล่าว่าพอถึงฤดูทำนาชาวบ้านใกล้เคียงกลัวว่าควายที่เลี้ยงไว้จะกินข้าวในนา  ก็พาควายที่เลี้ยงไว้กรรเชียงเรือ  จูงควายว่ายน้ำมาปล่อยไว้ที่เกาะโหลน  พอหมดฤดูทำนาเจ้าของควายก็จะมาพาควายกลับแต่มีควายที่หลุดเชือก
เป็นควายเถื่อนอยู่ที่เกาะโหลน   ควายเถื่อนพวกนี้ก็จะพากันกินหญ้า
กินต้นไม้บนเกาะทำให้โหลนเตียน  จึงได้เรียกว่า “บ้านเกาะโหลน”
ของดี เกาะโหลน คือ วัฒนธรรมวิถีความเป็นอยู่แบบพื้นถิ่น แหล่งท่องเที่ยวบ้านเกาะโหลน กลุ่มท่องเที่ยวชุมชนเชิงอนุรักษ์ อาหารทะเลสดๆรสชาติอร่อย การใช้พลังงานแสงอาทิตย์
 หมู่ที่ 4
บ้านบางคณฑี
ประวัติความเป็นมาของหมู่บ้าน    
                         เมื่อ  100  กว่าปีก่อน  ได้มีชาวมุสลิมจากจังหวัดสตูล  เดินทางอพยพมาอยู่ที่บ้านบางคณฑี   ได้ตั้งถิ่นฐานมีครอบครัว  มีญาติพี่น้องเดินทางมาอาศัยอยู่ด้วย  และได้ขยายเผาพันธุ์มากขึ้น  จนปัจจุบันมีสภาพเป็นชุมชน
                       ประวัติความเป็นมาของชื่อ บ้านบางคณฑี  มาจากหลายแหล่ง  สรุปได้  ดังนี้
                         บ้านบางคณฑี  สภาพหมู่บ้าน มีบาง  มีคลองเยอะ เวลามีเรือผ่านไป-มา  ก็จะพักจอดเพื่อตักน้ำกิน-น้ำใช้  เมื่อก่อนในหมู่บ้านมีคนอยู่น้อย  ร้านค้าในหมู่บ้านก็จะเปิดได้เพียง  1  แห่ง  ถ้าเปิดหลายแห่งก็จะขายไม่ได้   เพราะฉะนั้นถ้าร้านหนึ่งเปิด  อีกร้านหนึ่งก็ต้องปิด
                     บางก็เล่าว่า  บ้านบางคณฑี  เมื่อก่อนคนในหมู่บ้าน  มีนิสัยนักเลง
อันธพาล  ถ้ามีใครพลัดถิ่น  ไม่มีเครือญาติในหมู่บ้าน  เดินทางเข้าไปในหมู่บ้านก็จะถูกพวกนักเลง
อันธพาล  ก่อกวน  เล่นงาน  คนละทีจนไม่สามารถอยู่ได้  ต้องอพยพออกไปจากหมู่บ้าน
ของดีบ้านบางคณฑี ผ้าบาติก โฮมสเตย์ มุสลิมสบา แหล่งที่พักและที่อยู่อาศัย วัฒนธรรมผสมผสานไทยพุทธ มุสลิมที่อยู่ร่วมกันอย่างสันติ
 หมู่ที่  5  บ้านบางคณฑี  (ห้าแยก)
ประวัติความเป็นมาของหมู่บ้าน
       บ้านห้าแยก  หมู่ที่  5  ตำบลราไวย์   ได้จัดตั้งเป็นหมู่บ้านมานาน
ประมาณมากกว่า  100 ปี     พื้นที่หมู่บ้านตั้งอยู่บริเวณวงเวียนห้าแยก   จึงเรียกชื่อหมู่บ้านตามสถานที่ตั้ง  คือ  “บ้านห้าแยก” 
ของดี ห้าแยก-บางคณฑี การเลี้ยงกุ้งก้าวกามแดงในกระบอกม การเลี้ยงไส้เดือน
  หมู่ที่
6 บ้านแหลมพรหมเทพ
ประวัติความเป็นมาของหมู่บ้าน                                         
      บ้านพรหมเทพ  ได้แยกออกมาจาก  หมู่ที่ 2 ตำบลราไวย์  เมื่อปี  พ.ศ. 2516  มีผู้ใหญ่บ้านคนแรก  นายสนิท  หยดย้อย  เดิมเป็นพื้นที่ทุ่งเลี้ยงสัตว์   ได้สงวนไว้ตั้งแต่ ปี พ.ศ.  2479  หลังสงครามโคกครั้งที่ 2  ปี พ.ศ. 2487  ข้าวยาก หมากแพง  จึงได้ให้ชาวบ้านมาทำไร่  ปลูกข้าว
      ปี พ.ศ. 2519 นายอำเภอชิต
ธรรมประวัตได้มีการพัฒนาตัดทางขึ้นแหลมพรหมเทพโดยใช้งบ   อบจ.  ชาวบ้านได้อพยพขึ้นไปอยู่บนแหลม  ลักษณะพื้นที่ยื่นออกไปในทะเลเดิมเรียก “แหลมคอจ้าว”  และมีหาดในพื้นที่  คือ  หาดพรหมเทพนุ้ย,  หาดพรหมเทพใหญ่  จึงใช้ชื่อหมู่บ้าน   “บ้านแหลมพรหมเทพ”
ของดีบ้านแหลมพรมเทพ คือ จุดชมวิวพระอาทิตย์ตก แหลมพรมเทพ  อ่าวยะห์นุ้ย พลังงานลม
หมู่ที่ 7 บ้านใสยวน
ประวัติความเป็นมาของหมู่บ้าน
     ชุมชนบ้านใสยวน เป็นชุมชนมุสลิม  เดิมชุมชนบ้านใสยวนรวมอยู่ในหมู่ที่ 1
ตำบล ราไวย์ ได้แบ่งหมู่บ้านเป็นหมู่ที่ 7 ตำบลราไวย์
เมื่อปี พ.ศ. 2534
      ประวัติชื่อของหมู่บ้าน มาจากสถานที่ตั้งของชุมชนเป็นป่าใส
และเป็นที่ทำรังของผึ้งยวน จึงตั้งชื่อชุมชนว่า  “ บ้านใสยวน”  ชาวบ้านในชุมชนอยู่กันแบบเครือญาติ
เดิมประกอบอาชีพเกษตรกรรม เช่น ทำนา ทำไร่ ทำสวนมะพร้าว และเลี้ยงสัตว์
ปัจจุบันชุมชนบ้านใสยวนได้ขยายเป็นหมู่บ้านจัดสรร ธุรกิจบ้านเช่า
ทำให้มีคนจากภายนอกเข้ามาอาศัยอยู่ในหมู่บ้านมากขึ้น
     สภาวะเศรษฐกิจปัจจุบัน
ประกอบกับคนรุ่นใหม่ได้เปลี่ยนอาชีพจาเกษตรกรรมมาเป็นขายแรงงาน รับจ้าง ค้าขาย
รับเหมาก่อสร้าง ธุรกิจบ้านเช่า บ้านจัดสรร
ของดีบ้านใสยวน คือ แหล่งเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงด้านการปลูกผัก, ฝายน้ำล้น,การทำเครื่องแกง, อสม., ผาหินดำ, มีการรีไซเคิลขยะ, มัสยิดไสยวน ตัวอย่างการอยู่ร่วมกันในรูปแบบความหลากหลายทางวัฒนธรรมนานาชาติศาสนา


 
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น